free counters

ลิงค์เนื้อหาเพิ่มเติม
https://aiat.or.th/
https://www.sas.com/
https://today.line.me/
https://mgronline.com/


 

บทบาทของAI : Artificial Intelligence

บทบาทของ Artificial Intelligence
“Artificial intelligence is the future, not only for Russia, but for all humankind. It comes with colossal opportunities, but also threats that are difficult to predict. Whoever becomes the leader in this sphere will become the ruler of the world,” นี่คือคำพูดจากผู้นำ Russia หนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก

ในการพัฒนา Artificial Intelligence มีการแข่งขันกันเพื่อขึ้นเป็นผู้นำหมายเลขหนึ่งสำหรับในเทคโนโลยีนี้ ถึงขั้นว่าประเทศจีนประกาศว่าเขาจะเป็นประเทศที่เป็นผู้นำในด้าน AI Research ภายในปี 2030 นอกจากนี้ดูเหมือน AI จะเข้ามามีบทบาทในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ รวมไปถึงในด้านความมั่นคงปลอดภัยด้วย ในปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ได้แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันแล้ว เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยหลายๆ อย่างก็มี AI เป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอัจริยะ ของพ่อมดด้านเทคโนโลยี Elon Musk ที่พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนได้เอง และพยายามทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขาสามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลทั่วๆ ไป จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้โลกเรามีความตื่นตัวในด้าน AI มาก ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่จะเข้ามาเป็นตัวผลักดันด้านธุรกิจ

เรื่องของ AI เริ่มกลายเป็นประเด็นสำคัญบนเวทีการเมืองระดับชาติ เมื่อประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ได้พูดให้นักเรียนในรัสเซียฟัง ในวันเปิดภาคเรียนของโรงเรียนทั่วประเทศ ว่า AI คือ อนาคตของมนุษยชาติ ที่สร้างโอกาสมหาศาลในอนาคต ใครที่เป็นผู้นำด้าน AI จะเป็นผู้นำของโลกอนาคต และรัสเซียก็พร้อมที่จะทุ่มเททรัพยากรต่างๆเพื่อพัฒนาตัวเองในด้านนี้อย่างเต็มที่ ในขณะที่จีน มหาอำนาจที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของโลก ถึงกับใส่เรื่องของ AI ลงในแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ว่าจีน จะต้องเป็นผู้นำด้าน AI ของโลกให้ได้ภายในปี 2030 โดยจะผลักดันบริษัท startup และสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยด้านนี้ในมหาวิทยาลัยต่างๆ อย่างเต็มที่ ฟากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านออนไลน์ในจีน ทั้ง Baidu และ Tencent ต่างปรับแผนการเพื่อการเป็นผู้นำโลกในด้าน AI เช่นกัน ทั้งการตั้ง lab ภายในที่มีงบพัฒนาวิจัยมหาศาล ความร่วมมือกับหนาวยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในบริษัท AI ต่างๆทั่วโลก  มีรายงานจากทำเนียบขาว เมื่อเดือนตุลาคม 2016 ว่า จีน มีบทความและรายงานวิชาการที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติด้าน AI จากจีนได้รับการตีพิมพ์มากกว่าของทางสหรัฐแล้ว และจำนวนสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ AI จากนักวิจัยจากจีน ก็เพิ่มขึ้นกว่า 200% ซึ่งเป็นสัญญาณว่า community ที่วิจัยด้าน AI ในจีนมีความตื่นตัวมากเพียงใด และความร่วมมือร่วมใจของคนในชาติจะทำให้จีนพัฒนารวดเร็วมากยิ่งขึ้น

AI จะฉลาดได้ ก็ต่อเมื่อมีข้อมูลจำนวนมหาศาลมาให้คำนวณและเรียนรู้ เหมือนกับคนเรา ที่ยิ่งอ่านเยอะ ยิ่งรู้เยอะ ยิ่งเก่ง การมีประชากรมหาศาลกว่า 1,400 ล้านคน และมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตถึง 730 ล้านคน ทำให้มีปริมาณข้อมูลมหาศาล กว่าประเทศอื่นๆ กลายเป็นความได้เปรียบที่สำคัญของจีน และข้อมูลส่วนตัวของประชากร ก็ไม่ได้ถูกกฏหมายคุ้มครองมากนัก เมื่อเทียบกับทางยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้ยิ่งง่ายต่อการนำไปใช้พัฒนา AI ด้วยความเอาจริงเอาจังจากทั้งรัฐบาลและเอกชน จีนจึงเป็นประเทศที่ถูกจับตามองมากที่สุด ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำโลกด้าน AI แข่งกับสหรัฐ